ห้องที่ ๑๖๕ : พระธรรมกิติ


           องค์รามครั้นรุ่งแผ้ว พาสอง หน่อนา
ออกพระโรงเรืองรอง สั่งให้
โหรหาศุภฤกษ์ฉลอง ขวัญพระ ลูกเอย
โหรรับคำนวนได้ ฤกษน้อมทูลถวาย
           รุ่งรวิยี่สิบห้า นิมิต
อมฤตยโชคประสิทธิ์ สวัสดิแผ้ว
ทรงทราบสั่งโดยกิจ อมาตย์จัด การแฮ
ทำทั่วพนักแล้ว เสร็จพร้อมพิธีเฉลิม
           สองกระษัตริยเสด็จเข้า โสตสรง เสร็จเอย
ราเมศกุมารทรง เครื่องพร้อม
หมู่ราชประยูรวงษ ในฝ่าย น่านา
โดยเสด็จเดินแห่ห้อม สู่เบื้องบัลลังก์
           ราชครูเวียนแว่นแล้ว ดับควัน โบกเอย
กระแจะเจิมเฉลิมขวัญ หน่อน้อย
มโหระศพเล่นครบครัน ฉลองพระ กุมารแฮ
เสร็จกระษัตริย์ต่างคล้อย ต่างแคล้วสู่สฐาน
           โอรสคิดมาตุเศร้า โศกี ครวญเอย
พระตรัสให้รับชนนี กลับด้าว
ว่าชนกโศกแสนทวี เทวศเศร้า นางนอ
แม้มิกลับมอบนางท้าว แก่เถ้าแสนสุรางค์
           ภอรุ่งออกสังแจ้ง สุมัน ตันเฮย
รับราชโองการพลัน จัดพร้อม
สองสรงเสร็จเครื่องผัน ผายสถิตย ดุรงค์แฮ
ขบวนรถกำนัลล้อม เลื่อนริ้วพลจร
           รอนแรมลุกุฎิ์แล้ว ลงพา ชีเอย
ยุรยาตรนบสิทธา ถ่องถ้อย
สองราชกุมารลา พระวัช มฤคแฮ
มาสู่อาศรมน้อย นอบน้อมชนนิ
          กุมารทูลพระแม่ด้วย บิตุรงค์ สั่งเอย
ว่าพระโศกแสนทรง เทวศไห้
โทษพระบิตุเรศจง ยกโปรด ลูกนา
เชิญเสดจดังก่อนได้ ปกป้องปวงสนม
           สีดาทรงสดับทั้ง สองวอน
สังเวชรื้อมานะสมร ขุ่นข้อง
เจบจิตรบ่อคิดจร จักอยู่ พนัศนอ
แม้พระดับชีพต้อง สู่ด้าวถวายเพลิง
           สองสดับพจนพ้อ พาที ทูลนา
มอบสนมแดชนี ไป่เอื้อ
สุดวอนจึงลาลี ลาศลุ เฝ้าเอย
พระแม่ว่าจักเมื้อ ต่อท้าวสูญชนม์
           รามเรียกกระบี่ทั้ง สุมัน ตันเอย
กับอนุชสามพลัน เล่าแจ้ง
จำเราจักลวงขวัญ เนตร์นบ ศพแฮ
เสร็จสั่งอุบายแสร้ง เลศลี้กลใน
           สามอนุชอำมาตย์ทั้ง หณุมาน
รับสั่งมาพระลาน รีบเร้า
ลูกลมนฤมิตรการ เมรุเสร็จ ทูลเอย
พระตรัสเรียกนางเถ้า แก่แจ้งกิจกล
           จงจัดนางชะแม่ให้ โศกา
ประจวบสีดามา อย่าแคล้ว
อีกสองกุมารพา หลบเล่น ไกลแฮ
สั่งกระบี่ไปกุฏิแล้ว เสด็จเบื้องโกษฎบัง
           ลูกลมเหาะลุน้อม สีดา ทูลเอย
ทำโศกแสนโศกา ซนเฃ้า
พระกฤษณ์พระมรณา เชิญจุด เพลิงแฮ
นางบ่รู้กลเศร้า สร่างแล้วลามุนี
          พานเรศแปลงรูปให้ กายมหันต์
เชิญนาฎสู่หัดถ์พลัน เหาะเร้า
ลุเมรุนางผัน ผายสดับ โศกแฮ
หายกริ่งกรรแสงเศร้า ซบสิ้นสมประดี
           จักรกฤษณแฝงโกษฎได้ เหนนาง สลบเอย
ช้อนตระกองอรวาง นาฎฟื้น
ไฉนบคิดอางขนาง ทำเล่ห์ ฉนี้นา
ไตรโลกยจักสรวลครื้น ว่าแล้วเร็วหนี
           พระกฤษณ์ไล่ไขว่คว้า เยาวมาลย์
วิ่งตอบราชบรรหาร เหตุอ้าง
ความสัตยพระจะผลาญ ชีพไม่ ม้วยแฮ
ตั้งแต่วันสั่งมล้าง ขาดแล้ว ฤๅคืน
           รามเรียกอนุชทั้ง สามองค์
กับกระบี่เร็วจง กักไว้
วรนุชสุดคิดทรง สัตยเสี่ยง พลันนา
ภูมิดลดาลให้ ช่องด้วยสัตยสมร
           อรรคเรศร์ลงปล่องได้ โดยถวิล
เหนหัตถ์อรยุพิน พระคว้า
นางสลัดหลุดเลยลิน ลาลุ นาคนอ
สฤษดิรักษหลากอ้า อกโอ้อัศจรรย
           วิรุณนาคกล่าวถ้อย ถามสมร
นางตรัสโดยสุนทร ทบเท้า
สมเดจพระสี่กร คือภัศ ดานา
นาคประนตเชิญเจ้า สถิตย์ยั้งปรางมณี
           รามสั่งกระบี่น้อม นบลา ไปเอย
ชำแรกพสุธา เที่ยวค้น
จวบนาฎบริภาษพา นรรับ ผิดแฮ
อภิวาทยุรยาตรพ้น สู่ท้าววิรุณ
          หณุมานร่วมอาศนด้วย นาคินทร
ฝากเสร็จแทรกธระณิน ลุเฝ้า
ทูลว่าพระยุพิน เนานาค พิทักษนอ
ทรงทราบกรรแสงเศร้า โศกรอ้นแรงถวิล
           พระเสี่ยงศรสั่งซ้ำ ทรงแผลง
เรวลุลงกาแสดง เดชก้อง
พิเภกนบพระแสง เหาะลุ เฝ้าแฮ
ตรัสว่าเคราะห์เราต้อง เหตุร้ายแรงไฉน
           ขุนราพลงเลขแล้ว ทูลพลัน
พระเคราะห์ต้องจรจรัล จากด้าว
ปราบอสุรอาธรรม์ ทวาทศ มาศแฮ
เสร็จกิจหมดเคราะห์ท้าว เที่ยงได้อนงค์คืน
           พระสดับคลายโศรกซ้ำ โสรมนัศ
ทรงถอดสังวาลย์รัตน์ รีบให้
ขุนยักษนบนอ้มหัดถ์ รับสอด สรวมแฮ
พลางกราบทูลลาไท้ เสรจเมื้อเมืองมาร
           ทรงสังขสั่งอนุชทั้ง กุมาร สองเอย
จงอยู่เปนประธาน แหล่งหล้า
พระลักษณหณุมานชาญ ไปกับ เราแฮ
สองกระษัตริย์ไป่ช้า เสด็จเฝ้ามาตุรงค์
           ราเมศกับลักษณ์น้อม อัญชลี
ลาบาทพระชนนี ร่ำเศร้า
สามนางประสาทศรี สวัสดิโชค ไชยแฮ
สองรับพรลาเข้า สู่พื้นไพรพนม
           ดลมหาสาคเรศกว้าง สุดตา แลเอย
สองพระสู่บ่าพา นเรศรแกล้ว
เหาะรีบค่ามคงคา ดลเฃตร มารแฮ
ลงจากบ่ากระบินทร์แล้ว สถิตย์ไม้ไทรครึม

จบห้องที่ ๑๖๕

  เนื้อความกล่าวถึงเมื่อพระรามถึงกรุงอยุธยาโปรดให้ตั้งพิธีฉลองรับขวัญ แต่กุมารทั้งสองคิดถึงมารดา พระรามจึงให้ไปรับนางสีดา หากนางไม่ยอมกลับก็ให้นางกำนัลอยู่รับใช้ พระมงกุฎและพระลบจึงยกขบวนไปอาศรม อ้อนวอนขอให้นางสีดากลับเมือง แต่นางยังเจ็บใจกล่าวว่าหากเมื่อใดพระรามสิ้นพระชนม์จึงจะเข้าไปถวายพระเพลิง เมื่อพระรามทราบความจึงวางกลอุบายลวงให้นางสีดาเข้าเมือง เมื่อหนุมานเนรมิตพระเมรุแล้วก็เหาะไปเฝ้านางสีดา แสร้งร้องไห้เศร้าโศกว่าพระรามสิ้นพระชนม์แล้ว ขอเชิญนางเข้าเมืองไปถวายพระเพลิง หนุมานเนรมิตกายใหญ่โตให้นางประทับบนฝ่ามือแล้วพาไป นางสีดากราบโกศร้องไห้คร่ำครวญจนสลบสิ้นสติ พระรามซึ่งแฝงพระองค์อยู่หลังแท่นพระโกศจึงออกมาปลอบ นางรู้ว่าถูกลวงจึงแค้นใจ วิ่งหนีพลางกล่าวว่านับแต่วันที่สั่งประหารนางก็ขาดกันแล้ว ที่รอดชีวิตมาได้เพราะความสัตย์ซื่อของนางเอง ครั้นนางเห็นว่าจะหนีไม่พ้น ก็อธิษฐานขอให้พื้นธรณีแยกออกเป็นช่อง นางจึงลงไปได้จนถึงเมืองนาค ท้าววิรุณนาคเจ้าเมืองถาม นางบอกว่าเป็นชายาพระนารายณ์ ท้าววิรุณนาคจึงเชิญให้นางประทับอยู่ในเมือง ฝ่ายหนุมานรับคำสั่งพระรามให้แทรกกายลงไปตามหานางจนพบแต่ถูกนางสีดาบริภาษ หนุมานยอมรับผิดและขอฝากนางไว้กับท้าววิรุณนาค พระรามโศกเศร้าเสียใจที่นางไม่ยอมกลับจึงเสี่ยงศรไปถึงพิเภกที่กรุงลงกา พิเภกมาเฝ้าและทูลว่าพระรามมีเคราะห์ต้องออกจากเมืองไปปราบอสูรร้ายเป็นเวลา ๑๒ เดือน จึงจะหมดเคราะห์และได้นางกลับคืน พระรามจึงสั่งให้พระพรต พระสัตรุด และโอรสทั้งสองอยู่ปกครองบ้านเมือง หนุมานเนรมิตกายใหญ่โตให้พระรามพระลักษณ์ประทับบนบ่า พาออกจากเมืองไปถึงริมฝั่งน้ำและข้ามเข้าเขตเมืองยักษ์ มาพักอยู่ใต้ร่มไทรใหญ่

ที่ถูกต้องน่าจะเป็น “ภอรุ่งออกสั่งแจ้ง”
ที่ถูกต้องน่าจะเป็น “มอบสนมแด่ชนนี”
ที่ถูกต้องน่าจะเป็น “ขาดแล้วฤๅคืน”